เมื่อทองม้วนแปลงกายเป็น "จอมใจ" บ้านขนมสด
'บ้านขนมสด' ปล่อยแฟรนไชส์ขนมโชคดีออกสู่ตลาดเป็นแบรนด์แรก
หลังทดลองทำตลาดด้วยตัวเองกว่า 5 ปี มั่นใจขยายแฟรนไชส์ในปีนี้ให้ได้ 130
สาขา ชูความแตกต่างจากขนมแบรนด์อื่นๆ
ด้วยการสร้างคอนเซ็ปต์ว่าเป็นขนมโชคดีที่มีทั้งคำทำนาย และคำอวยพร
พร้อมเตรียมพัฒนาสินค้าและเครื่องจักรสำหรับการผลิตขนมเค้ก มินิคุ้กกี้
ขนมครก วัฟเฟิล ฯลฯ ในรูปแบบแฟรนไชส์
กรวิวัฒน์ กิจสวัสดิ์ หุ้นส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ 'บ้านขนมสด' กล่าวว่า บ้านขนมสดผลิตขนมภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า 'ขนมโชคดี' ซึ่งก็คือขนมทองม้วนกรอบหรือขนมทองพับ โดยขนมโชคดีได้ออกสู่ตลาดมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ซึ่งการที่เลือกผลิตขนมโชคดีทั้งที่เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตขนมโชคดี สามารถผลิตขนมได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนมทองพับ ทองม้วน ทองม้วนสด มินิเครป แพนเค้ก ฯลฯ เนื่องจากความไม่สะดวกในการเก็บรักษาของขนมประเภทสด ทำให้เกิดความคิดที่หันมาทำเป็นขนมทองพับ และทองม้วนกรอบแทน
ส่วนการที่หันมาเน้นขยายกิจการในรูปแบบของแฟรนไชส์ ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้สนใจซื้ออุปกรณ์ไปทำแต่กลับประสบกับปัญหาในระบบผลิต ความคลาดเคลื่อนของส่วนผสม ทำให้ขนมไหม้ การกำหนดต้นทุนและยอดขายไม่ตรงตามที่กำหนด จึงเกิดแนวคิดที่จะปรับธุรกิจให้มาอยู่ในรูปของแฟรนไชส์แทน
โดยจะควบคุมสูตรของขนมด้วยการผลิตส่วนผสมแป้งทรีอินวันให้กับแฟรนไช ซี่ เพื่อตัดปัญหาในเรื่องของส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งขั้นตอนนี้ยังเป็นการช่วยลดเวลาในการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบจากเวลา 30-45 นาทีมาเป็น 15 นาที โดยส่วนผสมต่อหนึ่งซองสามารถพัฒนาสินค้าออกมาได้เป็น 100 สูตร ไม่ว่าจะเป็นขนมโชคดีสูตรงา ผัก ฟักทอง และแครอท ฯลฯ
สำหรับการลงทุนในธุรกิจขนมโชคดีจะต้องลงทุนเริ่มต้นที่ 30,000 กว่าบาท ถือเป็นการลงทุนที่ไม่สูง เนื่องจากต้องการบ้านขนมสดมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจให้ออกไปได้เยอะ และทำให้คนที่สนใจอาชีพเสริมได้เข้ามาทำธุรกิจตรงนี้ โดยเป้าหมายของการขยายแฟรนไชส์บ้านขนมสนในปีนี้คาดว่าจะมีแฟรนไชส์ประมาณ 130 สาขา ส่วนความแตกต่างของขนมโชคดีกับขนมแบรนด์อื่นๆ คือการสร้างความแตกต่างด้วยการมีคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใคร
"จริงๆ เครื่องจักรใครๆ ก็พัฒนาได้ แต่สิ่งที่คนอื่นพัฒนาไม่ได้คือเรื่องของคอนเซ็ปต์ของขนม ซึ่งเราเปลี่ยนมาเป็นขนมโชคดี เนื่องจากขนมของเราจะมีคำทำนาย คำอวยพรลงไปก็เหมือนกับฟอร์จูนเค้กในต่างประเทศ คุณจะซื้อไปฝากใครก็ได้ ซึ่งคุณก็สามารถเลือกคำทำนายได้ อย่างวันนี้คุณอยากกินขนมคุณก็ซื้อโดยไม่ต้องเลือกคำทำนายแล้วก็ไปลุ้นว่าจะ ได้คำทำนายแบบไหนซึ่งตรงนี้จะเป็นการเสริมจิตใจของคนอื่นให้ดีขึ้น โดยเราได้เตรียมคำทายไว้ทั้งหมด 30 เบอร์"
สำหรับทำเลในการเปิดขายขนมโชคดีสามารถเปิดได้ทุกแห่งไม่จำกัด เพียงแต่ต้องมีป้ายร้าน บูธ เครื่องมือและอุปกรณ์เท่านั้น แต่หากเป็นพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เขาบอกว่า อยากให้แฟรนไชซี่ประเมินก่อนเนื่องจากมีค่าเช่าที่สูง นอกจากนี้แฟรนไชซี่ยังสามารถผลิตสินค้าส่งให้กับสำนักงานใหญ่ได้ เนื่องจากขณะนี้สำนักงานใหญ่มีคำสั่งซื้อจากประเทศจีน และอเมริกาในปริมาณที่มากจนสำนักงานใหญ่ไม่สามารถผลิตได้ทัน โดยระดับราคาในการขายขนมโชคดีจะอยู่ที่ 25-50 บาท ซึ่งระดับราคากล่องขนาดมาตรฐานถือเป็นระดับที่มีการจำหน่ายที่ดี เนื่องจากบรรจุภัณฑ์นี้มีความแตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น
กรวิวัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับพัฒนาการต่อไปในการทำแฟรนไชส์บ้านขนมสดจะมีการพัฒนาทั้งตัวขนมและ เครื่องจักรในการผลิตให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ ขนมเค้ก มินิคุ้กกี้ ขนมครก และวัฟเฟิล ฯลฯ โดยบ้านขนมสดจะไม่จำกัดตัวเฉพาะการผลิตและจำหน่ายขนมไทยเท่านั้น สำหรับแฟรนไชซี่ที่สนใจสามารถซื้อเครื่องจักรและมาอบรมหลักสูตรการทำขนมชนิด ต่างๆ ได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทางร้านยังติดปัญหาในการพัฒนาอายุการเก็บรักษาของขนมครกกับวัฟเฟิล จากการที่เป็นขนมสด ทำให้ซื้อไปแล้วต้องบริโภคทันที ไม่สามารถเก็บได้นานเหมือนอย่างขนมโชคดีที่เก็บได้ 15 วัน-1 เดือน ระหว่างนี้จึงเร่งปรับปรุงหลักสูตรและคาดว่าอีกสองเดือนจะวางสูตรปรับปรุง ใหม่ออกสู่ตลาดได้
"ขณะนี้ยังต้องพัฒนาในเรื่องของสูตรให้มีคุณภาพที่นิ่ง และการเปลี่ยนจากอุปกรณ์เตาถ่านมาเป็นเตาไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขายในห้างสรรพสินค้ามากขึ้น"
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการพัฒนาเครื่องทำไอศครีมสดที่สามารถผลิตไอศครีมได้ในเวลาครึ่ง ชั่วโมง เพื่อสร้างความสะดวกในการผลิตให้กับผู้ประกอบการ โดยยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและจะพัฒนาให้เป็นไอศครีมกระทิสดแบบเข้มข้น
สนใจธุรกิจ โทร. 0-2962-2171
credit by : http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000095739
กรวิวัฒน์ กิจสวัสดิ์ หุ้นส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ 'บ้านขนมสด' กล่าวว่า บ้านขนมสดผลิตขนมภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า 'ขนมโชคดี' ซึ่งก็คือขนมทองม้วนกรอบหรือขนมทองพับ โดยขนมโชคดีได้ออกสู่ตลาดมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ซึ่งการที่เลือกผลิตขนมโชคดีทั้งที่เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตขนมโชคดี สามารถผลิตขนมได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนมทองพับ ทองม้วน ทองม้วนสด มินิเครป แพนเค้ก ฯลฯ เนื่องจากความไม่สะดวกในการเก็บรักษาของขนมประเภทสด ทำให้เกิดความคิดที่หันมาทำเป็นขนมทองพับ และทองม้วนกรอบแทน
ส่วนการที่หันมาเน้นขยายกิจการในรูปแบบของแฟรนไชส์ ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้สนใจซื้ออุปกรณ์ไปทำแต่กลับประสบกับปัญหาในระบบผลิต ความคลาดเคลื่อนของส่วนผสม ทำให้ขนมไหม้ การกำหนดต้นทุนและยอดขายไม่ตรงตามที่กำหนด จึงเกิดแนวคิดที่จะปรับธุรกิจให้มาอยู่ในรูปของแฟรนไชส์แทน
โดยจะควบคุมสูตรของขนมด้วยการผลิตส่วนผสมแป้งทรีอินวันให้กับแฟรนไช ซี่ เพื่อตัดปัญหาในเรื่องของส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งขั้นตอนนี้ยังเป็นการช่วยลดเวลาในการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบจากเวลา 30-45 นาทีมาเป็น 15 นาที โดยส่วนผสมต่อหนึ่งซองสามารถพัฒนาสินค้าออกมาได้เป็น 100 สูตร ไม่ว่าจะเป็นขนมโชคดีสูตรงา ผัก ฟักทอง และแครอท ฯลฯ
สำหรับการลงทุนในธุรกิจขนมโชคดีจะต้องลงทุนเริ่มต้นที่ 30,000 กว่าบาท ถือเป็นการลงทุนที่ไม่สูง เนื่องจากต้องการบ้านขนมสดมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจให้ออกไปได้เยอะ และทำให้คนที่สนใจอาชีพเสริมได้เข้ามาทำธุรกิจตรงนี้ โดยเป้าหมายของการขยายแฟรนไชส์บ้านขนมสนในปีนี้คาดว่าจะมีแฟรนไชส์ประมาณ 130 สาขา ส่วนความแตกต่างของขนมโชคดีกับขนมแบรนด์อื่นๆ คือการสร้างความแตกต่างด้วยการมีคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใคร
"จริงๆ เครื่องจักรใครๆ ก็พัฒนาได้ แต่สิ่งที่คนอื่นพัฒนาไม่ได้คือเรื่องของคอนเซ็ปต์ของขนม ซึ่งเราเปลี่ยนมาเป็นขนมโชคดี เนื่องจากขนมของเราจะมีคำทำนาย คำอวยพรลงไปก็เหมือนกับฟอร์จูนเค้กในต่างประเทศ คุณจะซื้อไปฝากใครก็ได้ ซึ่งคุณก็สามารถเลือกคำทำนายได้ อย่างวันนี้คุณอยากกินขนมคุณก็ซื้อโดยไม่ต้องเลือกคำทำนายแล้วก็ไปลุ้นว่าจะ ได้คำทำนายแบบไหนซึ่งตรงนี้จะเป็นการเสริมจิตใจของคนอื่นให้ดีขึ้น โดยเราได้เตรียมคำทายไว้ทั้งหมด 30 เบอร์"
สำหรับทำเลในการเปิดขายขนมโชคดีสามารถเปิดได้ทุกแห่งไม่จำกัด เพียงแต่ต้องมีป้ายร้าน บูธ เครื่องมือและอุปกรณ์เท่านั้น แต่หากเป็นพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เขาบอกว่า อยากให้แฟรนไชซี่ประเมินก่อนเนื่องจากมีค่าเช่าที่สูง นอกจากนี้แฟรนไชซี่ยังสามารถผลิตสินค้าส่งให้กับสำนักงานใหญ่ได้ เนื่องจากขณะนี้สำนักงานใหญ่มีคำสั่งซื้อจากประเทศจีน และอเมริกาในปริมาณที่มากจนสำนักงานใหญ่ไม่สามารถผลิตได้ทัน โดยระดับราคาในการขายขนมโชคดีจะอยู่ที่ 25-50 บาท ซึ่งระดับราคากล่องขนาดมาตรฐานถือเป็นระดับที่มีการจำหน่ายที่ดี เนื่องจากบรรจุภัณฑ์นี้มีความแตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น
กรวิวัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับพัฒนาการต่อไปในการทำแฟรนไชส์บ้านขนมสดจะมีการพัฒนาทั้งตัวขนมและ เครื่องจักรในการผลิตให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ ขนมเค้ก มินิคุ้กกี้ ขนมครก และวัฟเฟิล ฯลฯ โดยบ้านขนมสดจะไม่จำกัดตัวเฉพาะการผลิตและจำหน่ายขนมไทยเท่านั้น สำหรับแฟรนไชซี่ที่สนใจสามารถซื้อเครื่องจักรและมาอบรมหลักสูตรการทำขนมชนิด ต่างๆ ได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทางร้านยังติดปัญหาในการพัฒนาอายุการเก็บรักษาของขนมครกกับวัฟเฟิล จากการที่เป็นขนมสด ทำให้ซื้อไปแล้วต้องบริโภคทันที ไม่สามารถเก็บได้นานเหมือนอย่างขนมโชคดีที่เก็บได้ 15 วัน-1 เดือน ระหว่างนี้จึงเร่งปรับปรุงหลักสูตรและคาดว่าอีกสองเดือนจะวางสูตรปรับปรุง ใหม่ออกสู่ตลาดได้
"ขณะนี้ยังต้องพัฒนาในเรื่องของสูตรให้มีคุณภาพที่นิ่ง และการเปลี่ยนจากอุปกรณ์เตาถ่านมาเป็นเตาไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขายในห้างสรรพสินค้ามากขึ้น"
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการพัฒนาเครื่องทำไอศครีมสดที่สามารถผลิตไอศครีมได้ในเวลาครึ่ง ชั่วโมง เพื่อสร้างความสะดวกในการผลิตให้กับผู้ประกอบการ โดยยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและจะพัฒนาให้เป็นไอศครีมกระทิสดแบบเข้มข้น
สนใจธุรกิจ โทร. 0-2962-2171
credit by : http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000095739
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt